การพาสุนัขไปเดินเล่น

การพาสุนัขไปเดินเล่น

การเดินเล่น ไม่ว่าจะใช้เวลาสั้น ๆ หรือเดินเล่นนาน ๆ ก็ถือเป็นกิจกรรมที่อยู่ในชีวิตประจำวันของสุนัข และสำหรับคนรักสุนัขแล้ว การใช้เวลาร่วมกันกับเพื่อนสี่ขาของพวกเขาก็เป็นช่วงเวลาที่มีความสุข แต่ควรพิจารณาอะไรบ้างเมื่อพาสุนัขไปเดินเล่น การออกกำลังกายส่งผลต่อสุขภาพของสุนัขอย่างไร และควรจัดเวลาสำหรับการเดินเล่นในแต่ละวันนานเท่าไหร่

ที่มาของคำว่า “Gassi laufen” ในภาษาเยอรมัน

ต้นกำเนิดของคำว่า “Gassi laufen” นั้นไม่แน่ชัด แต่คาดว่ามาจากคำว่า "Gasse" ซึ่งหมายถึงตรอก/ซอย โดยเฉพาะในเมืองเก่าแก่ของยุโรป มีตรอก/ซอยแคบ ๆ ระหว่างแนวบ้านอยู่มากมาย ในอดีต สุนัขมักจะถูกพาไปเดินออกกำลังกายในตรอกหรือซอยเหล่านี้ แม้ว่าปัจจุบันจะนิยมพาสุนัขไปเดินเล่นในพื้นที่ชนบทมากขึ้น แต่คำนี้ก็ยังคงใช้กันทั่วไป

การเดินเล่นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับสุนัข

การเดินเล่นไม่ใช่เพียงแค่การออกกำลังกายสำหรับสุนัขเท่านั้น การใช้เวลานอกบ้านมีความสำคัญต่อสุขภาพของสุนัขโตเต็มวัย และช่วยให้ลูกสุนัขมีพัฒนาการที่ดี

สัญชาตญาณดั้งเดิมของสุนัขและความสำคัญของการออกกำลังกาย

แม้ว่าสุนัขจะสืบทอดสายเลือดมาจากหมาป่า แต่สัญชาตญาณบางอย่างที่เคยเป็นเอกลักษณ์ของพวกมันอาจไม่จำเป็นอีกต่อไป เนื่องจากการใช้ชีวิตร่วมกับมนุษย์ เช่น สุนัขไม่จำเป็นต้องล่าอาหารเอง อย่างไรก็ตาม สัญชาตญาณนี้ก็ยังคงปรากฏชัดในสุนัขบางสายพันธุ์ ซึ่งอธิบายได้ว่าทำไมการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอและการกระตุ้นทางจิตใจจึงมีความสำคัญต่อสุขภาพโดยรวมของสุนัข

เมื่อสุนัขไม่อยากออกไปเดินเล่น

แม้ว่าเจ้าของจะวางแผนกิจวัตรประจำวันและเวลาสำหรับสุนัขไว้อย่างดี แต่ก็อาจพบว่าสุนัขไม่ต้องการออกไปเดินเล่น ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ่อย ทำให้เจ้าของรู้สึกสับสน สาเหตุไม่ได้บ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพเสมอไป แต่สามารถเกิดจากหลายปัจจัยที่แตกต่างกัน

สาเหตุที่สุนัขอาจไม่อยากออกไปเดินเล่น

การหาสาเหตุที่แท้จริงของพฤติกรรมบางอย่างของสุนัขไม่ใช่เรื่องง่าย หากคุณไม่ได้เลี้ยงสุนัขมาตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข ก็เป็นไปได้ว่ามันอาจเคยมีประสบการณ์ที่ไม่ดีในอดีตและไม่อยากออกไปเดินเล่น แต่สาเหตุนี้ก็เป็นเพียงหนึ่งในหลาย ๆ ปัจจัยที่เป็นไปได้

สาเหตุอื่น ๆ อาจรวมถึง:

• เชื่อมโยงกับประสบการณ์ที่ไม่ดี
• ความเจ็บปวดหรือสุขภาพไม่แข็งแรง
• สภาพอากาศ เช่น อากาศร้อนจัดหรือหนาวจัด
• ความไม่มั่นใจ
• ความกลัว
• อาการเฉื่อยชาเนื่องจากอาหารที่ไม่เหมาะสม
• ความเบื่อหน่าย

เคล็ดลับให้การเดินเล่นสนุกขึ้น

สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีความต้องการที่แตกต่างกัน และทุกตัวก็มีความต้องการเฉพาะของตัวเองเช่นกัน ควรศึกษาสาเหตุก่อนตัดสินใจ!

ตรวจสุขภาพก่อน

สุนัขไม่สามารถบอกได้ว่ามันรู้สึกไม่สบายตัวหรือเจ็บตรงไหน และบางตัวถึงกับพยายามปกปิดอาการเจ็บป่วย ดังนั้นจึงควรตรวจสุขภาพกับสัตวแพทย์เป็นระยะเพื่อตรวจสอบสุขภาพและตัดสาเหตุที่เกี่ยวข้องกับโรคออกไป โดยเฉพาะสุนัขที่มีอายุมากหรือสายพันธุ์ที่มีแนวโน้มจะเกิดโรคเฉพาะทาง ควรเข้ารับการตรวจสุขภาพเป็นประจำ

เพิ่มความหลากหลายในการเดินเล่น

เหมือนกับมนุษย์ สุนัขก็เบื่อได้ หากเดินเล่นเส้นทางเดิมตลอดเวลา อาจทำให้บางสายพันธุ์รู้สึกไม่ตื่นเต้น ควรเพิ่มความหลากหลายในการเดิน เช่น ลองเปลี่ยนเส้นทางใหม่ ซึ่งจะช่วยให้สุนัขเจอกลิ่นและสิ่งกระตุ้นใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ

อาการเฉื่อยชาจากอาหารที่ไม่เหมาะสม

หลังจากกินอาหารจนอิ่ม บางครั้งเราเองก็ไม่อยากออกกำลังกาย สุนัขก็เช่นกัน! อาหารสุนัขส่วนใหญ่ผลิตด้วยกระบวนการเอ็กซ์ทรูชัน (extrusion) ซึ่งทำให้สูญเสียน้ำในอาหาร เมื่ออาหารเหล่านี้สัมผัสกับน้ำอีกครั้ง มันจะพองตัว ทำให้เกิดภาวะ "ท้องอืด" และทำให้สุนัขรู้สึกเฉื่อยชาหลังกินอาหาร หากอาหารสุนัขไม่ได้รับการปรับให้เหมาะสมกับความต้องการของสุนัข ก็อาจส่งผลต่อสุขภาพและพลังงานของมันได้ อาหารที่ผ่านกระบวนการ Fleischsaftgarung ถูกปรุงในน้ำซุปเนื้อเข้มข้น ทำให้รักษาความชุ่มชื้นตามธรรมชาติไว้ได้ และไม่ทำให้พองในกระเพาะ ส่งผลให้สุนัขพร้อมสำหรับการเดินครั้งต่อไป

ประสบการณ์ที่ไม่ดีหรือความกลัว

หากสงสัยว่าสุนัขไม่อยากเดินเพราะความกลัวหรือประสบการณ์ไม่ดี คุณควรให้กำลังใจด้วยความรักและความสม่ำเสมอ อาจช่วยให้สุนัขคุ้นเคยกับสถานการณ์นั้นโดยเผชิญหน้ากับมัน พร้อมเบี่ยงเบนความสนใจเพื่อให้มันรู้สึกปลอดภัย การทำงานร่วมกับผู้ฝึกสุนัขมืออาชีพเป็นอีกทางเลือกที่ดี

ปรับการเดินให้เหมาะสมกับสภาพอากาศ

ในช่วงฤดูร้อนที่อากาศร้อนจัด ควรเลือกเดินในช่วงเช้าตรู่หรือตอนเย็น ซึ่งดีต่อระบบไหลเวียนโลหิตของสุนัขและป้องกันอุ้งเท้าจากพื้นร้อนจัด ขณะที่อากาศหนาวจัดอาจทำให้สุนัขบางตัวหนาวจนไม่สามารถทนได้ โดยเฉพาะสุนัขที่มีขนสั้น การใช้เสื้อกันหนาวสำหรับสุนัขจะช่วยให้มันอบอุ่นขึ้น

10 คำถามและคำตอบเกี่ยวกับการพาสุนัขไปเดินเล่น

มีหลายปัจจัยที่ควรพิจารณาเพื่อให้การเดินเล่นเป็นกิจกรรมที่สนุกทั้งสำหรับเจ้าของและสุนัข ต่อให้การพาสุนัขไปเดินเล่นเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับคุณ แต่ก็ยังมีคำถามที่น่าสนใจ เช่น ความยาวของสายจูง ระยะเวลาในการเดิน และข้อกฎหมายเกี่ยวกับสุนัขให้คุณได้ค้นหาคำตอบกันอีกมากมาย

1. ควรพาสุนัขออกไปเดินบ่อยแค่ไหน?

ไม่มีคำตอบที่เป็นสูตรสำเร็จ เพราะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น

• อายุ
• ขนาด
• สายพันธุ์
• ระยะเวลาหรือรูปแบบของกิจกรรม
• ลักษณะนิสัย
• การกระตุ้นทางจิตใจที่เกิดขึ้นภายในบ้าน

ไม่ใช่แค่สายพันธุ์และอายุของสุนัขที่กำหนดความถี่ในการออกกำลังกายเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับประเภทของกิจกรรม เช่น การฝึกทริค 20 นาทีอาจท้าทายสุนัขมากกว่าการเดินเล่นสบาย ๆ 60 นาที

2. ควรพาสุนัขไปเดินเล่นนานเท่าไหร่

เช่นเดียวกับความถี่ ระยะเวลาการเดินก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง โดยทั่วไปมีคำแนะนำให้เดินแบบใช้เวลานานวันละ 2 ครั้ง และแบบใช้เวลาสั้น ๆ อีก 2 ครั้ง คุณสามารถใช้เป็นแนวทางคร่าว ๆ ได้ แต่ก็ควรปรับให้เหมาะกับสุนัขของคุณ

นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงสภาพอากาศ ลูกสุนัขหรือสุนัขที่ไวต่ออากาศหนาวไม่ควรอยู่นอกบ้านนานเกินไป และควรมีช่วงอุ่นร่างกายภายในบ้านเป็นระยะ ส่วนในฤดูร้อน ควรหลีกเลี่ยงการเดินกลางวันและเลือกเพิ่มเวลาเดินในช่วงเช้าหรือเย็นแทน

3. สายจูงแบบไหนดีที่สุดสำหรับการเดินเล่น

สายจูงที่เหมาะสมขึ้นอยู่กับจุดประสงค์ในการใช้งาน ความชอบของเจ้าของ และสายพันธุ์ของสุนัข ต่อไปนี้เป็นประเภทสายจูงที่นิยมใช้กัน

การเลือกสายจูงและข้อบังคับเกี่ยวกับการใช้สายจูงในเยอรมนี

แม้ว่าจะมีสายจูงหลายประเภท แต่สิ่งสำคัญคือต้องมีสายจูงติดตัวเสมอ! แม้ในชนบทที่ห่างไกลจากผู้คน สุนัขก็ยังต้องถูกจูงเป็นบางครั้ง นอกจากนี้ ในบางรัฐและบางเมืองยังมีข้อกำหนดเกี่ยวกับความยาวของสายจูง ตัวอย่างเช่น หากคุณพาสุนัขไปยังเขตคนเดินในกรุงเบอร์ลินซึ่งมีฝูงชนหนาแน่น ความยาวสายจูงอาจถูกจำกัดไว้เพียง 1 เมตร

สำหรับลูกสุนัขที่ยังไม่ได้รับการฝึกเดิน ควรใช้สายรัดอกแทนสายจูงปกติ

4. ที่ใดบ้างในเยอรมนีที่บังคับให้ใส่สายจูงสุนัข

ข้อบังคับเกี่ยวกับสายจูงแตกต่างกันไปในแต่ละรัฐ

อย่างไรก็ตาม แม้ในรัฐที่ไม่มีข้อกำหนดเฉพาะ ก็ยังมีสถานที่บางแห่งที่ให้ใส่สายจูงสุนัข ในเส้นทางนอกเมือง สุนัขสามารถเดินโดยไม่มีสายจูงได้ แต่ข้อบังคับนี้อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามฤดูกาล เช่น ช่วงฤดูผสมพันธุ์และฤดูเพาะปลูก ดังนั้นควรตรวจสอบข้อมูลในพื้นที่ก่อนพาสุนัขออกไปเดิน

5. ควรพาสุนัขเดินก่อนหรือหลังกินอาหาร

โดยทั่วไป ควรให้สุนัขพักย่อยอาหารสักครู่หลังกินอาหาร การวิ่งหรือกลิ้งไปมาหลังอาหารอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะ บิดตัวของกระเพาะได้ โดยเฉพาะในสุนัขสายพันธุ์ขนาดใหญ่

สุนัขบางตัวหรือบางสายพันธุ์มีแนวโน้มที่จะหาอาหารกินข้างทางหากสุนัขออกไปเดินเล่นโดยยังไม่ได้กินอาหารก่อน อาจเพิ่มความอยากอาหารและเสี่ยงต่อการบริโภคอาหารที่เป็นพิษเข้าไปได้

คุณภาพของอาหารสุนัขก็มีผลเช่นกัน อาหารที่ผ่านกระบวนการเอ็กซ์ทรูชัน มักพองตัวในกระเพาะ ซึ่งอาจต้องให้สุนัขพักนานขึ้นหลังอาหาร ในขณะที่กระบวนการ Fleischsaftgarung จะยังคงสภาพความชุ่มชื้นตามธรรมชาติในอาหารไว้ จึงทำให้สุนัขพร้อมสำหรับการเดินเร็วขึ้น

6. ควรมีอะไรบ้างในกระเป๋าของสุนัขสำหรับการเดินเล่นนาน ๆ

สำหรับการเดินนานหลายชั่วโมง คุณควรเตรียมขนมและน้ำสำหรับสุนัข กระเป๋าสำหรับสุนัขช่วยให้จัดเก็บอุปกรณ์ที่จำเป็นได้สะดวก การหยุดพักดื่มน้ำเป็นสิ่งสำคัญต่อสุขภาพของสุนัขเมื่อต้องออกกำลังกายต่อเนื่อง

7. สุนัขสามารถอยู่ได้นานแค่ไหนโดยไม่ต้องพาออกไปเดินเล่น

โดยทั่วไปแล้ว สุนัขโตสามารถอยู่ได้นานหลายชั่วโมงโดยไม่ต้องพาออกไปเดินเล่น ในช่วงกลางคืน สุนัขสามารถอยู่ได้นานถึง 8 ชั่วโมง โดยไม่ต้องออกไปข้างนอก อย่างไรก็ตาม สำหรับลูกสุนัขแล้ว ควรให้โอกาสพวกเขาได้ขับถ่ายทุก ๆ 2 ชั่วโมง หากลูกสุนัขเริ่มควบคุมการขับถ่ายได้ดีขึ้น คุณก็สามารถค่อย ๆ เพิ่มระยะเวลาขึ้นทีละน้อยได้

8. จะเกิดอะไรขึ้นหากไม่พาสุนัขไปเดินเล่น

ผลลัพธ์แรกคือพวกมันอาจขับถ่ายในบ้าน อย่างไรก็ตาม สุนัขโตที่มีสุขภาพดีมักจะหลีกเลี่ยงพฤติกรรมนี้

หากขาดการออกกำลังกายเป็นเวลานาน อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพและพฤติกรรม เช่น

• ความเบื่อหน่ายหรือความหงุดหงิด
• น้ำหนักเพิ่มขึ้นเนื่องจากขาดการออกกำลังกาย
• มีพฤติกรรมกระโดดโลดเต้นเพื่อลดพลังงานส่วนเกิน

พฤติกรรมสุดท้ายอาจก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์ สุนัข และสัตว์อื่น ๆ ได้

9. ลูกสุนัขควรออกกำลังกายมากแค่ไหน

ลูกสุนัขควรออกไปข้างนอกบ่อยกว่าสุนัขโต เนื่องจากยังควบคุมกระเพาะปัสสาวะไม่ได้ ระยะเวลาเดินเล่นควรสั้นลง ตามหลักทั่วไปก็คือ ลูกสุนัขสามารถเดินได้ 1 นาทีต่ออายุหนึ่งสัปดาห์ เช่น หากมีอายุ 12 สัปดาห์ ควรเดินประมาณ 12 นาทีต่อครั้ง เมื่อโตขึ้น คุณสามารถเพิ่มระยะเวลาและระยะห่างระหว่างการเดินได้ทีละน้อย แต่ไม่ควรรวมเวลาสำรวจสิ่งต่าง ๆ หรือเล่นเข้าไปในการเดินปกติ ควรควบคุมไม่ให้ลูกสุนัขตื่นเต้นมากเกินไป เนื่องจากบางสายพันธุ์อาจไม่รู้ว่าตัวเองเหนื่อยและควรหยุดพักเมื่อไหร่

10. สุนัขเผาผลาญพลังงานเท่าไหร่ระหว่างเดินเล่น

ปริมาณแคลอรีที่ใช้ขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ อายุ ขนาด และน้ำหนักของสุนัข นอกจากนี้ยังแตกต่างกันตามลักษณะการเดิน เช่น เดินสบาย ๆ หรือเดินเร็ว และ มีสายจูงหรือปล่อยเดินอิสระ จะเห็นว่าประเด็นนี้มีความซับซ้อน ดังนั้น เราขอแนะนำให้อ่านรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับความต้องการแคลอรีของสุนัขได้ที่นี่